การคัดเลือกพ่อ - แม่พันธุ์เพื่อการเพาะผสมพันธุ์ปลาดุก

- 0 comments
ในคำกล่าวที่ว่าดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ นั้นคงใช้ได้ดีกับเรื่องที่เราจะนำเสนอวันนี้ครับ เพราะเราจะว่าด้วยเรื่องของการขยายหรือเพาะพันธุ์ปลาดุก ซึ่งการที่ลูกปลาดุกจะออกมามีสุขภาพดีหรือแข็งแรงนั้นก็จะต้องดูที่พ่อแม่พันธุ์เป็นสำคัญ หากพ่อแม่ไม่สมบูรณ์แล้วโอกาสที่ลูกปลาจะออกมาไม่สมบูรณ์แข็งแรงก็มีสูง ฉะนั้นเราจะไปติดตามวิธีการคัดเลือกและดูลักษณะของพ่อ - แม่พันธุ์ปลาดุกที่ดีกันครับ

การคัดเลือกพ่อ - แม่พันธุ์เพื่อการเพาะผสมพันธุ์ปลาดุก

ข้อมูลการคัดเลือกพ่อ - แม่พันธุ์ปลาที่ดี

พ่อแม่พันธุ์ปลาดุกที่นำ มาใช้ควรเป็นปลาที่สมบูรณ์ ไม่บอบชํ้า และควรมีอายุตั้งแต่ 1 ปี ขึ้นไป การ สังเกตลักษณะปลาเพศเมียที่ดีในการเพาะพันธุ์ดูได้ จากส่วนท้องจะอูมเป่ง ไม่นิ่มหรือแข็งจนเกินไป ติ่งเพศจะ มีลักษณะกลมมีสีแดง หรือชมพูอมแดง ถ้าเอามือบีบเบาๆ ที่ท้องจะมีไข่ลักษณะเป็นเม็ดกลมสีนํ้าตาลอ่อนใส ไหลออกมา ส่วนปลาดุกเพศผู้จะมีติ่งเพศยาวเรียวมีสีชมพูเรื่อๆ ปลาไม่ควรมีขนาดอ้วนหรือผอมจนเกินไป ขนาดพ่อ-แม่พันธุ์ปลาดุก ควรมีขนาดนํ้าหนักมากกว่า 200 กรัมขึ้นไป หรือปลาที่มีอายุประมาณ 7-8 เดือน หรือ 1 ปี ให้อาหารที่มีคุณภาพดี เพื่อให้มีไข่แก่ จะใช้เวลา 3-4 เดือน มีการถ่ายเทนํ้าบ่อยๆ เพื่อกระตุ้นให้ ปลาถึงวัยเจริญพันธุ์เร็วขึ้น ส่วนปลาดุกเทศเพศผู้นิยมใช้ขนาดนํ้าหนักตัวมากกว่า 500 กรัมขึ้นไป และควร เป็นปลาที่มีอายุไม่ตํ่ากว่า 1 ปี ลำ ตัวเพรียวยาวและไม่อ้วนจนเกินไป

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก หนังสือ การเพาะเลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุย กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ขอบคุณภาพประกอบจาก bestfish4u.com
[Continue reading...]

การเลี้ยงปลาดุกด้วยพืชสามารถช่วยผู้ประสบกับการขาดทุน

- 0 comments
ด้วยสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันนั้น จึงไม่แปลกที่ทุกๆคนจะประสบกับปัญหาในเรื่องของราคาต้นทุนที่สูงขึ้นเรื่อยๆจนทำให้ขาดทุนในการเลี้ยงปลาดุก วันนี้จึงได้นำเสนอบทความเกี่ยวกับการใช้พืชผักต่างๆมาเป็นอาหารเลี้ยงปลาดุกเพื่อลดต้นทุนในส่วนของค่าอาหาร ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนทางหนึ่งให้เกษตรกรผู้เลี้ยงได้นำไปทดลองใช้กับฟาร์มของตัวเอง

การเลี้ยงปลาดุกด้วยพืชสามารถช่วยผู้ประสบกับการขาดทุน

การเลี้ยงปลาดุกโดยทั่วไป ผู้ประกอบการจะประสบกับการขาดทุนหรือไม่คุ้มทุน เพราะปัจจัยการผลิตมีราคาแพง คือ อาหาร เกษตรกรหลายรายถึงกับเลิกการเลี้ยงปลาดุกไปทำกิจกรรมการเกษตร อย่างอื่นแทน จากการนำเกษตรกรผู้ร่วมโครงการศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชน หมู่ที่ ๑ ตำบล ควนกลาง อำเภอพิปูน ไปทัศนศึกษาดูงาน ณ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนไม้เรียง มหาวิทยาลัยธรรมชาติ สถาบันเรียนรู้เพื่อพึ่งตนเอง หมู่ที่ ๒ ตำบลไม้เรียง อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช

เทคนิคการเลี้ยงปลาดุกแบบคุ้มทุนและทำกำไรให้กับผู้เลี้ยง

ซึ่งเริ่มจากการให้อาหาร ปลาเล็ก ให้อาหารแบบนับเม็ด คือ ตัวละ ๕ เม็ด โดยแช่น้ำก่อนให้กิน เมื่อปลาดุกโตขึ้น อายุ ๑ เดือน ให้เริ่มฝึกให้กินพืชกินผัก เช่น ผักตบชวา ผักกะเฉด ผักบุ้ง แทนในมื้อเย็น ช่วงแรกปลาจะไม่ค่อยกิน เพราะปลาดุกเป็นปลากินพืช แต่เมื่อหิวจัดก็จะกัดกิน ให้ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนปลากินเป็น ปลาก็จะกินผัก อาหารจากพืชผักแทนอาหารมื้อเย็น ทำให้สามารถลดต้นทุนลงได้ครึ่งหนึ่ง เมื่อครบกำหนดการจับปลา ขายผู้บริโภคจะชอบซื้อ เพราะปลาจะมีเนื้อแน่น รสชาดก็คล้ายปลาธรรมชาติ

ปัญหาที่พบในการเลี้ยงปลาดุกอีกอย่างหนึ่ง คือ ปัญหาของเนื้อปลามีกลิ่นสาบ วิธีการแก้ไข คือ เมื่อเปลี่ยนถ่ายน้ำในทุก ๗ วันนั้นให้เติมน้ำจุลินทรีย์ลงไปด้วย ปริมาณการเติมขึ้นอยู่กับขนาดของ บ่อเลี้ยง ถ้าเลี้ยงในท่อซิเมนต์ใช้ ๒ – ๓ ช้อนโต๊ะ ก็จะทำให้ปลาดุกไม่มีกลิ่นสาบเวลารับประทาน หากจะให้การเลี้ยงปลาดุกให้ได้กำไร การให้อาหารพืชทดแทนในบางมื้อ ปลามีกลิ่นน่ารับประทาน ต้องใช้ น้ำจุลินทรีย์ปรับสภาพน้ำ เป็นที่มาของปลาดุกโตเร็ว รสชาดดีเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค.

แหล่งที่มา phipun.nakhonsri.doae.go.th
[Continue reading...]

เรียนรู้วิธีการเตรียมบ่อเลี้ยงปลาเพื่อให้ได้ผลผลิตตอบแทนสูงสุด

- 0 comments
วันนี้จะมาพูดถึงวิธีเตรียมบ่อเี้ลี้ยงปลาและประโยชน์ที่ได้รับต่างๆ ซึ่งก็เป็นความรู้เบื่องต้นที่สำคัญสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มการเลี้ยงปลาดุก เพราะถ้าหากเราเตรียมบ่อไว้ไม่ดีอาจจะทำให้บ่อปลาสกปรกจนเป็นแหล่งของเชื้อโรคได้ และแน่นอนว่าปลาที่เราเลี้ยงไว้ก็จะป่วยไปด้วย หรืออาจจะถึงขั้นตายยกบ่อเลยทีเดียว

เรียนรู้วิธีการเตรียมบ่อเลี้ยงปลาเพื่อให้ได้ผลผลิตตอบแทนสูงสุด

การเตรียมบ่อเลี้ยงปลา หมายถึง การปรับสภาพแวดล้อม เช่น ความเป็นกรดเป็นด่าง ความสะอาดของก้นบ่อ ภายในบ่อเลี้ยงปลาก่อนการเลี้ยงปลาให้สามารถใช้เลี้ยงปลาได้โดยมีผลผลิตตอบแทนสูงสุดต่อหน่วยพื้นที่บ่อ

ประโยชน์ของการเตรียมบ่อเลี้ยงปลา

  • พื้นก้นบ่อมีโอกาสได้รับแสงแดดและออกซิเจน ทำให้อินทรีย์วัตถุที่หมักหมม อยู่ในบ่อมีการย่อยสลายตัวได้ดีทำให้อัตราการเจริญเติบโตของปลาดีขึ้น
  • เพิ่มเนื้อที่ของน้ำในบ่อให้มากขึ้น จากการลอกก้นบ่อและกำจัดวัชพืชต่าง ๆ ทำให้ปล่อยปลาลงเลี้ยงได้มากขึ้น
  • ฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ ในบ่อปลาให้น้อยลง ทำให้อัตราการรอดตายของปลาเพิ่มมากขึ้น
  • กำจัดศัตรูปลาต่างๆ เช่น ปลากินเนื้อ ได้แก่ ปลาดุก ปลาช่อน ปลาบู่ ทำให้อัตราการรอดตายของปลาเพิ่มขึ้น
  • การปรับปรุงคันบ่อในขณะเตรียมบ่อทำได้ง่ายขึ้น

วิธีการเตรียมบ่อก่อนการเลี้ยงปลา

  • สำหรับบ่อเก่า ควรระบายน้ำออกแล้ว ปรับปรุงบ่อ โดยการถอนวัชพืชบริเวณก้นบ่อ ขอบบ่อ และคันบ่อออก ลอกเลนที่มีสีดำคล้ำและมีกลิ่นเหม็นออก
  • ใส่ปูนขาวโดยโรยให้ทั่วพื้นบ่อและขอบบ่อ
  • ตากบ่อทิ้งไว้ 2-3 วัน
  • กำจัดศัตรูปลาในกรณี ที่เป็นบ่อเก่าสูบน้ำให้แห้ง จะต้องทำการสูบน้ำในบ่อให้เหลือ 10-20 ซม. กำจัดวัชพืชต่าง ๆ ออกให้หมดแล้วกำจัดศัตรูปลาโดยใช้ยาเบื่อเมา
  • ปล่อยน้ำเข้าให้มีระดับความลึก 30-50 ซม. เพื่อกระตุ้นให้เกิดอาหารธรรมชาติ เช่น แพลงก์ตอนพืช แพลงก์ตอนสัตว์ เป็นต้น
  • ใส่ปุ๋ยคอกโดยหว่านให้ทั่วบ่อบริเวณที่มีน้ำท่วมถึงทิ้งไว้ 5-7 วัน
ขอบคุณข้อมูลจาก kasetsomboon.org
[Continue reading...]

ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของปลาที่ต้องควบคุมดูแลให้ถูกต้อง

- 1 comments
การเจริญเติบโตของปลานั้น นับได้ว่าสามารถที่จะบ่งบอกถึงการประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวในการเลี้ยงปลาเลยทีเดียว ซึ่งจะมีปัจจัยสำคัญหลายๆด้านให้ผู้เลี้ยงได้พิจจารณาประกอบกัน สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นในการเลี้ยงปลาดุกอย่างจริงจังนั้นเนื้อหาความรู้วันนี้สำคัญมาก ซึ่งปัจจัยต่างๆเหล่านี้จำเป็นต้องมีการควบคุมดูแลที่เข้มงวดเป็นพิเศษ เพราะนั่นอาจจะหมายถึงเงินลงทุนที่ต้องขาดทุนไปในการทำธุรกิจเลยทีเดียว

ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของปลาที่ต้องควบคุมดูแลให้ถูกต้อง

ปัจจัยต่างๆที่มีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตของปลามีดังต่อไปนี้

  • ปัจจัยที่เกิดจากการจัดการ
  • ปัจจัยที่เกิดจากสภาพแวดล้อม
  • ปัจจัยที่เกิดจากความสมบูรณ์ของบ่อเลี้ยงปลา
  • ปัจจัยที่เกิดจากตัวปลาที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของปลาแตกต่างกันตามชนิดของปลา
  • ปัจจัยที่เกิดจากอาหาร
  • ปัจจัยที่เกิดจากโรคปลาและศัตรูปลา
  • ปัจจัยที่เกิดจากการจัดการ
ขอบคุณข้อมูลจาก kasetsomboon.org
[Continue reading...]

ข้อแตกต่างของปลาดุกอุยและปลาดุกเทศที่คนเลี้ยงควรทราบ

- 0 comments
จริงๆแล้วปลาดุก (Catfish) นั้นมีหลากหลายประเภทในบ้านเรา แต่วันนี้เราจะขอเจาะจงไปที่ปลาดุกอุยและปลาดุกเทศว่ามีข้อแตกต่างอะไรบ้าง เื่พื่อที่เราจะสามารถแยกแยะพันธ์ปลาทั้ง 2 ประเภทได้อย่างถูกต้อง หากในปัจจุบันนี้ก็มีปลาดุกลูกผสมอุย-เทศ หรือ บิ๊กอุย ที่ซึ่งเป็นที่นิยมเลี้ยงของเกษตรกร เนื่องจากเลี้ยงง่ายมีการเจริญเติบโตรวดเร็ว อีกทั้งทนทานต่อโรคและสภาพแวดล้อมได้ดี ทั้งยังเป็นที่นิยมบริโภค ของประชาชนเนื่องจากมีรสชาติดีและราคาถูก

ข้อแตกต่างระหว่างปลาดุกอุยและปลาดุกเทศ

ตารางเปรียบเทียบข้อแตกต่างระหว่างปลาดุกอุยและปลาดุกเทศ

ลักษณะปลาดุกอุยปลาดุกเทศ
1.หัวเล็กค่อนข้างรีไม่แบน กระโหลกจะ ลื่นมีรอยบุ๋มตรงกลางเล็กน้อยใหญ่และแบน กระโหลกจะเป็นตุ่มๆ ไม่เรียบมีรอยบุ๋มตรงกลางเล็กน้อย
2. ใต้คางมีสีคลํ้าไม่ขาวสีขาว
3. หนวดมี 4 คู่ โคนหนวดเล็กมี 4 คู่ โคนหนวดใหญ่
4. กะโหลกท้ายทอยโค้งมนหยักแหลม มี 3 หยัก
5.ปากไม่ป้านค่อนข้างมนป้าน แบนหนา
6. ครีบหูมีเงี่ยงเล็กสั้นแหลมคมมากครีบแข็ง ยื่นยาวเกินหรือเท่ากับครีบอ่อนมีเงี่ยงใหญ่ สั้นนิ่มไม่แหลมคมและส่วน ของครีบอ่อนหุ้มถึงปลายครีบแข็ง
7. ครีบหลังปลายครีบสีเทาปนดำปลายครีบสีแดง
8. ครีบหางกลมไม่ใหญ่มากนักสีเทาปนดำกลมใหญ่ สีเทา ปลายครีบมีสี แดงและมี แถบสีขาวลาดบริเวณคอดหาง
9. สัดส่วนระหว่างหัว:ตัว1 : 41 : 3
10. สีของลำ ตัวดำ นํ้าตาลปนดำ ที่บริเวณด้านบน ของลำ ตัวเทา เทาอมเหลือง
11. จุดที่ลำ ตัวขณะที่ปลามีขนาดเล็กจะปรากฏจุด ขาวเรียงขวางเป็นทางประมาณ 9 - 10 แถวเมื่อปลามีขนาดใหญ่ จุดจะ เลือนหายไปไม่มีจุด เมื่อปลาโตขึ้นจะปรากฏลาย คล้ายหินอ่อนอยู่ทั่วตัว
12. ผนังท้องมีสีขาวถึงเหลืองเฉพาะบริเวณอกถึง ครีบท้องผนังท้องมีสีขาวตลอดจนถึงโคนหาง

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก หนังสือ การเพาะเลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุย กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
[Continue reading...]

สอนการทำอาหารปลาดุกจากเนื้อหอยเชอรี่เพื่อช่วยลดต้นทุน

- 0 comments
ก่อนหน้านี้เราได้นำเสนอเกี่ยวกับสูตรการทำอาหารปลาดุกแบบง่ายๆไปแล้ว มาวันนี้ก็ยังเป็นเรื่องของอาหารปลาดุกแต่เป็นการนำเนื้อหอยเชอรี่มาเป็นส่วนประกอบหลักในการทำ ซึ่งจะว่าไปแล้วหอยเชอรี่นั้นเป็นศัตรูตัวฉกาจของชาวนาทั้งหลายก็ว่าได้แถมยังมีปริมาณมากเกินความต้องการอีก จึงเป็นการดีที่เราจะมาช่วยกำจัดหอยเชอรี่โดยการนำมาทำอาหารปลาดุก ก็นับได้ว่าเหมือนเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลย

สอนการทำอาหารปลาดุกจากเนื้อหอยเชอรี่เพื่อช่วยลดต้นทุน

 วัตถุดิบและส่วนผสม

  • หอยเชอรรี่บด (แห้ง) - 2 กิโลกรัม
  • ข้าวเปลือกบด - 9.5 ขีด
  • รำละเอียด  - 2 กิโลกรัม
  • กากถั่วเหลืองบด (แห้ง)  - 1 กิโลกรัม
  • ปลายข้าวเหนียวบด - 1 กิโลกรัม
  • เกลือป่น - 1.2 ขีด
  • กล้วยน้ำหว้า - 1 กิโลกรัม
  • กะทิ - 2 ลิตร
  • น้ำร้อน - 1-2.5 ลิตร
สอนการทำอาหารปลาดุกจากเนื้อหอยเชอรี่เพื่อช่วยลดต้นทุน

ขั้นตอนการผลิตอาหารเลี้ยงปลาดุกจากเนื้อหอยเชอรี่

  1. ชั่งน้ำหนักวัตถุดิบแต่ละชนิดตามสูตรอาหารต่างๆ แล้วบดให้ละเอียดโดยใช้เครื่องปั่นไฟฟ้า
  2. ผสมวัตถุดิบต่างๆ ตามสูตรอาหารรวมกันโดยผสมนาน 30 นาที โดยเติมน้ำอุ่นทีละน้อยและนวดจนกระทั่งส่วนผสมของวัตถุดิบทั้งหมดสามารถจับตัวเป็นก้อน
  3. นำไปเข้าเครื่องอัดเม็ด
  4. ผึ่งให้แห้ง

ตารางแสดงคุณค่าทางอาหารและค่าองค์ประกอบของอาหารปลาดุกที่ผลิตขึ้นจากหอยเชอรี่

องค์ประกอบปริมาณทางอาหาร
โปรตีน(%)70.98
ไขมัน(%)13.53
คาร์โบไฮเดรต(%)37.53
การลอยตัว(นาที/น้ำ 1 กรัม)7.25
pH6.67

ในการให้อาหารแต่ละครั้งนั้นควรพึงระวังเรื่องการให้ในปริมาณที่มากเกินไปด้วยเพราะอาจจะทำให้น้ำในบ่อปลาดุกเน่าเสียและอาจเกิดปัญหาเรื่องโรคตามมาได้อีกด้วยครับ

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก สนับสนุนงานวิจัยโดย : กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และคลินิกเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ผู้วิจัย : ผศ.ดร.โศภิษฐ์ เวทยสุภรณ์
ข้อมูลอ้างอิงจาก research.msu.ac.th/Clinic/index.php
ขอบคุณภาพหอยเชอรรี่จาก ngthai.com
[Continue reading...]

วิธีการอนุบาลลูกปลาดุกที่เพิ่งฟักออกเป็นตัวใหม่ ๆ

- 0 comments
สำหรับวิธีการอนุบาลปลาดุกนั้นก็เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญสำหรับคนที่คิดจะเลี้ยงปลาดุกแบบจริงจัง ซึ่งจะเป็นการดีหากเราสามารถที่จะขยายพันธ์ปลาดุกเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะนอกจากจะประหยัดเงินจากการไปซื้อลูกปลาดุกมาเลี้ยงแล้ว ยังสามารถสร้างรายได้โดยการขายลูกปลาดุกที่เลี้ยงอีกด้วย

วิธีการอนุบาลปลาดุกที่เพิ่งฟักออกเป็นตัวใหม่ ๆ

เกี่ยวกับลูกปลาที่ฟักออกมาไม่นาน

เมื่อเกิดมาใหม่ๆลูกปลาดุกจะใช้อาหารในถุงไข่แดงที่ติดมากับตัว เมื่อถุงไข่แดงที่ติดมากับลูก ปลายุบ ให้ไข่ไก่ต้มสุกเอาเฉพาะไข่แดงบดผ่านผ้าขาวบางละเอียดให้ลูกปลากิน 1-2 ครั้ง หลังจากนั้นจึงให้ลูก ไรแดงเป็นอาหาร ส่วนการขนส่งลูกปลาเมื่อลูกปลาอายุครบ 2 วัน สามารถขนย้ายได้ด้วยความระมัดระวังโดยใช้สายยางดูด แล้วบรรจุในถุงพลาสติกขนาด 18 นิ้ว ไม่ควรเกิน 10,000 ตัวต่อถุง หากขนส่งเกิน 8 ชั่วโมง ให้ลดจำ นวนลูกปลาลง

การอนุบาลลูกปลาดุกในบ่อซีเมนต์

สามารถดูแลรักษาได้ง่ายขนาดของบ่อซีเมนต์ควรมีขนาด ประมาณ 2-5 ตารางเมตร ระดับความลึกของนํ้าทีใช้อนุบาลลึกประมาณ 15-30 เซนติเมตร การอนุบาลลูกปลาดุกที่มีขนาดเล็ก(อายุ 3 วัน) ระยะแรกควรใส่น้ำ ในบอ่อนบุ าลลกึประมาณ 10-15 เซนตเิมตร เมอื่ ลกู ปลามีขนาดใหญ่ขึ้นจึงค่อย ๆ เพิ่มระดับนํ้าให้สูงขึ้น การอนุบาลให้ลูกปลาดุกมีขนาด 2-3 เซนติเมตรจะใช้ เวลาประมาณ 10-14 วัน นํ้าที่ใช้ใน การอนุบาลจะต้องเปลี่ยนถ่ายทุกวัน เพื่อเร่งให้ลูกปลาดุกกินอาหารและ มีการเจริญเติบโตดี อีกทั้งเป็นการป้องกันการเน่าเสียของนํ้าด้วย การอนุบาลลูกปลาดุกจะปล่อยในอัตรา 3,000-5,000 ตัว/ตรม. อาหารที่ใช้ คือ ไรแดงเป็นหลักในบางครั้งอาจให้อาหารเสริมบ้าง เช่น ไข่ตุ๋นบด ละเอียด เต้าหู้อ่อนบดละเอียด หรืออาจให้อาหารเร่งการเจริญเติบโต ซึ่งหากให้อาหารเสริมจะต้องระวังเกี่ยว กับการย่อยของลูกปลาและการเน่าเสียของนํ้าในบ่ออนุบาลให้ดีด้วย

การอนุบาลลูกปลาดุกในบ่อดิน

บ่อดินที่ใช้อนุบาลลุกปลาดุกควรมีขนาด 200-800 ตรม. บ่อดินที่จะ ใช้อนุบาลจะต้องมีการกำ จัดศัตรูของลูกปลาก่อน และพื้นก้นบ่อควรเรียบ สะอาดปราศจากพชืพรรณไม้น้ำต่างๆ ควรมีร่องขนาดกว้างประมาณ 0.5 -1 เมตร ยาวจากหัวบ่อจรดท้ายบ่อ และลึกจากระดับ พื้นก้นบ่อ ประมาณ 20 เซนติเมตร เพื่อความสะดวกในการรวบรวมลูกปลา และ ตรงปลายร่องควรมีแอ่งลึก มีพื้นที่ ประมาณ 2-4 ตรม. เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมลูกปลา การอนุบาลลูกปลาดุกในบ่อจะต้องเตรียมอาหารสำหรับลูกปลา โดยการเพาะไรแดงไว้ล่วงหน้าเพื่อเป็นอาหารให้แก่ลูกปลาก่อนที่จะปล่อย 1 ลูกปลาดุกลงอนุบาลในบ่อการอนุบาลในบ่อดินจะปล่อยในอัตรา 300-500 ตัว/ตรม. การอนุบาลลูกปลาให้เติบโตได้ขนาด 3-4 เซนติเมตร ใช้เวลาประมาณ 14 วัน แต่การอนุบาลลูกปลาดุกในบ่อดินนั้น สามารถควบคุมอัตราการเจริญ เติบโตและอัตรารอดได้ยากกว่าการอนุบาลในบ่อซีเมนต์

ปัญหาส่วนใหญ่ที่พบในการอนุบาลลูกปลา

นํ้าเสียเกิดขึ้นจากการให้อาหารลูกปลามากเกินไป หากลูกปลาป่วยให้ ลดปริมาณอาหารลง 30-500 % ดูดตะกอนถ่ายนํ้าแล้วค่อยๆ เติมนํ้าใหม่หลังจากนั้นใช้ยาปฏิชีวนะออก ซีเตตร้าซัยคลิน แช่ลูกปลาในอัตรา 10-20 กรัมต่อนำ 1 ลูกบาศก์เมตรหรือในไตรฟุราโชน 5-10 กรัม ต่อ นํ้า 1 ลูกบาศก์เมตร วันต่อๆมาใช้ยา 3/4 เท่า ปลาจะลดจำ นวนการตายภายใน 2 3 วัน ถ้าปลาตายเพิ่มขึ้น ควรกำจัดลูกปลาทิ้งไป เพื่อป้องกินการติดเชื้อไปยังบ่ออื่นๆ

หวังว่าวิธีการอนุบาลปลาดุกที่เราได้เพิ่งเสนอไปจะเป็นประโยชน์ต่อการเลี้ยงปลาดุกของทุกๆคนไม่มาก็น้อยนะครับ แล้วอย่าลืมให้คำติชมกันด้วยครับ ขอบคุณครับ

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก หนังสือ การเพาะเลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุย กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
[Continue reading...]

อึ้งกันใหญ่!! สาวอังกฤษฉายเดี่ยวตกได้ปลาดุกยักษ์ ยาวกว่า 2 เมตร

- 0 comments
เจอข่าวนี้ถึงกับอึ้งทีเดียวครับเพราะการตกปลาดุกยักษ์ได้ก็เก่งมากแล้ว แต่คนที่ตกได้ดันเป็นผู้หญิงอีกนี่ซิถึงกับอึ้งกันไปเลย จะหาปลาดุกไซส์แบบนี้ที่บ้านเราคงยากนะครับ แต่ยังไงก็ขอชมแม่สาวรายนี้จริงๆที่เย่อปลาตัวโตขนาดนี้ได้

ตะลึง!! หญิงสาวอังกฤษตกได้ปลาดุกยักษ์ ยาวกว่า 2 เมตร

เดลิเมล์ - หญิงสาวนักตกปลามือสมัครเล่นทำเอาแฟนหนุ่มที่เป็นมืออาชีพถึงกับอึ้ง หลังเธอตกได้ปลาดุกยักษ์ยาวกว่า 7 ฟุต (ราว 2.10 เมตร) และมีน้ำหนักเกือบ 55 กิโลกรัม ทุบสถิติปลาน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดที่ถูกตกได้ในสหราชอาณาจักร

คริสติน โฮล สาวอังกฤษวัย 20 ปี จากเมืองแลคเลดส์ กลอสเตอร์เชียร์ จับปลาดุกยักษ์ตัวนี้ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าตัวเธอต่อหน้า ลี พอลลาร์ด แฟนหนุ่มซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตกปลา ทำเอาพอลลาร์ดต้องเสียหน้าเล็กน้อย

ทั้งนี้ คริสตินตกปลาตัวนี้จากแหล่งน้ำลึกที่แคมป์ตกปลาในเมืองนอร์โฟล์ค ทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงที่สามารถตกปลาน้ำจืดได้ขนาดใหญ่ที่สุดในสหราช อาณาจักร ทุบสถิติของสตรีรายหนึ่งที่เคยทำเอาไว้ 31 กิโลกรัม ขณะที่แฟนหนุ่มของเธอก็เคยตกได้ขนาดใหญ่ที่สุดเพียงแค่ 18 กิโลกรัมเท่านั้น

คริสตัน ซึ่งมีส่วนสูง 155 เซนติเมตร บอกว่าการตกปลาดุกยักษ์ 2 เมตรเศษๆ ตัวนี้ เหมือนออกแรงฉุดกระชากกับรถบัส ขณะที่เธอต้องใช้ความพยายามม้วนสายเบ็ดกว่า 1 ชั่วโมงถึงจะสยบมันลงได้สำเร็จ

จากนั้นเธอก็จัดการถ่ายภาพคู่กับปลาดุกยักษ์ตัวนี้และโพสต์มันลงบน อินเทอร์เน็ต ก่อนจะปล่อยมันคืนสู่ทะเลสาบในสภาพที่สมบูณ์และไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ


ขอบคุณข้อมูลจาก manager.co.th
[Continue reading...]

รู้หรือไม่? ปลาดุกคุณค่าทางด้านโปรตีนสูงเป็นอันดับต้นๆเลย

- 0 comments
วันนี้มีข้อมูลดีๆเกี่ยวกับปลาดุกมาฝากกันครับ  ซึ่งเป็นเรื่องของคุณค่าทางอาหารต่างๆในปลา โดยเฉพาะโปรตีนซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อร่างกายมนุษย์อย่างเราๆ ที่ช่วยซ่อมแซมส่วนสึกหรอต่างๆ ยิ่งถ้าเป็นพวกเล่นเพาะกายหรือฟิตเนสด้วยแล้วยิ่งมีความต้องการสูง ที่นี้ลองมาดูกันว่าปลาชนิดไหนจะให้คุณค่าทางโปรตีนมากกว่ากัน

รู้หรือไม่? ปลาดุกคุณค่าทางด้านโปรตีนสูงเป็นอันดับต้นๆเลย

คุณค่าทางด้านโภชนาการของปลา

ปลาเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เราจัดปลาไว้ในอาหารหลักหมู่ที่หนึ่งในประเภทเนื้อสัตว์ ไข่ นมและถั่วเมล็ดแห้ง โปรตีนในเนื้อปลาจะถูกนำไปใช้ในการเสริมสร้างเนื้อเยื่อและซ่อมแซมสิ่งที่สึกหรอ ไขมันที่มีอยู่ในเนื้อปลาจะเป็นส่วนประกอบของเซลล์ต่างๆ โดยเฉพาะสมอง จะป้องกันการจับแข็งตัวของไขมันในเส้นเลือด วิตามิน และแร่ธาตุที่มีอยู่ในเนื้อปลาจะควบคุมการทำงานของร่างกายให้ทำหน้าที่ได้ตามปกติ

คุณค่าทางด้านโปรตีน

ปลาชนิดต่าง ๆ ให้โปรตีนในปริมาณที่สูงพอสมควร เนื้อปลา 100 กรัม จะประกอบขึ้นด้วยโปรตีนเป็นจำนวนกรัม ดังนี้
  1. ปลาดุก 23.0
  2. ปลาตะเพียน 22.0
  3. ปลากระบอก 20.7
  4. ปลาช่อน 20.5
  5. ปลาทู 20.0
  6. ปลาแป้น 19.6
  7. ปลาเก๋า 18.08
  8. ปลาทรายแดง18.4
  9. ปลาตาเดียว 18.1
  10. ปลาไส้ตัน 18.0
  11. ปลากราย 17.5
  12. ปลาหมอไทย 17.2
  13. ปลาสวาย 15.4
  14. ปลาหมึกกล้วย 15.2
  15. ปลาเนื้ออ่อน 14.4 
ไหนๆเราก็ทำการเลี้ยงปลาดุกเองแล้ว ก็หันมาบริโภคปลากันเยอะๆด้วยนะครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก http://nutrition.anamai.moph.go.th
[Continue reading...]

ฉู่ฉี่ปลาดุก เมนูอาหารสำหรับคนชอบรสจัดจ้าน

- 0 comments
วันนี้เราขอเสนอฉู่ฉี่ปลาดุก  ซึ่งเป็นเมนูอาหารที่เหมาะสำหรับคนชอบรับประทานรสจัดอย่างยิ่งครับ เครื่องปรุงอาจจะต้องเตรียมเยอะสักหน่อย แต่หากเป็นพ่อครัวหัวป่าแล้วละก็ คงจะไม่ยากจนเกินไปนัก พูดแล้วก็น้ำลายไหล ยังไงเราไปลองทำกันเลย

ฉู่ฉี่ปลาดุก เมนูอาหารสำหรับคนชอบรสจัดจ้าน

เครื่องปรุงและส่วนประกอบ

  1. น้ำมันถั่วเหลือง 
  2. พริกแกงฉู่ฉี่ 
  3. กะทิ 
  4. น้ำตาลปี๊บ 
  5. น้ำปลา 
  6. ปลาดุกที่หั่นเป็นชิ้นแล้ว 
  7. ใบมะกรูดฉีก 
  8. พริกชี้ฟ้าแดงหั่นแฉลบ 
  9. ใบมะกรูดซอย 
  10. พริกชี้ฟ้าแดงซอย 
  11. ข้าวสวยร้อน ๆ 

วิธีทำฉู่ฉี่ปลาดุก

  1. นำกระทะตั้งไฟใส่น้ำมันถั่วเหลือง ลงไปพอร้อน ใส่เครื่องแกงฉู่ฉี่ลงไปผัดให้หอม ใส่กระทิลงไปผัด ให้เข้ากันแล้วเติม กะทิส่วนที่เหลือลงไปคนให้เข้ากัน
  2. ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา คนให้ส่วนผสมให้เข้ากันชิมรส ให้หวานนำเค็มตาม
  3. ใส่ ปลาดุก ที่หั่นไว้ลงไปผัดให้เข้ากัน ปล่อยให้เดือด และ ปลาสุกชิมรสอีกครั้ง
  4. ใส่ใบมะกรูดชีก พริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบลงไปผัดพอเค้ากัน ปิดไฟตักใส่ถ้วยแต่งหน้าด้วยใบมะกรูดซอย พริกชี้ฟ้าซอย เสริฟกับข้าว
[Continue reading...]

สูตรการทำอาหารปลาดุกไว้ใช้เอง อย่างง่ายๆและได้ผลดี

- 0 comments
นอกจากการเอาใจใส่วิธีการหรือเทคนิคในการเลี้ยงปลาดุกแล้วเรื่องของอาหารก็สำคัญไม่แพ้กัน วันนี้เราจึงอยากเสนอสูตรการทำอาหารปลาดุกเองแบบง่ายๆมานำเสนอให้ผู้คนที่สนใจอยากลองทำอาหารเลี้ยงปลาดุกของตัวเองกันครับ การทำอาหารเองนั้นจะทำให้เราสามารถมั่นใจได้เลยว่าอาหารที่ให้ปลาดุกของเรามีคุณภาพมากน้อยเพียงใดเพราะเราเป็นคนปรุงส่วนผสมเองทั้งหมด ซึ่งนับว่าเป็นการช่วยประหยัดและลดต้นทุนค่าใช้จ่ายไปในตัอีกด้วย

สูตรการทำอาหารปลาดุกไว้ใช้เอง อย่างง่ายๆและได้ผลดี

วัสดุที่ต้องเตรียม

  1. รำละเอียด 2 กระสอบปุ๋ย
  2. กากมะพร้าว 1 กระสอบปุ๋ย
  3. ปลาป่น 6 กิโลกรัม
  4. กากถั่วเหลือง 6 กิโลกรัม
  5. จุลินทรีย์ EM 1 ลิตร
  6. กากน้ำตาล 1 กิโลกรัม
  7. น้ำมันพืช 1 / 2 ลิตร

ขั้นตอนวิธีการทำอาหารปลาดุก

  1. นำส่วนผสมข้อ 1 1 กระสอบ ข้อ 2,3,4 คลุกให้เข้ากัน
  2. นำส่วนผสม ข้อ 5,6 ผสมน้ำ 20 ลิตร เพื่อคลุกเคล้าส่วนผสม ข้อ 1 หมักไว้ 12 ชั่วโมง
  3. นำส่วนผสมที่หมักไว้ในข้อ 1,2 ผสมกับรำละเอียด 1 กระสอบและน้ำมันพืช 1 ? 2 ลิตรคลุกเคล้านำเข้าเครื่องอัดเม็ดผึ่งแดด 2 วัน เก็บไว้ได้ 2 เดือน
หากหลังจากที่ได้ลองนำสูตรอาหารปลาดุกไปลองใช้แล้วได้ผลเป็นอย่างไร อย่างลืมนำมาบอกกล่าวเพื่อนๆด้วยนะครับ แล้วมาติดตามสูตรใหม่ได้เรื่อยๆที่บล็อคแห่งนี้ครับ
[Continue reading...]

เคล็ดลับการเลี้ยงปลาดุกในบ่อปูนซีเมนต์และการทำน้ำหมักสูตรเลี้ยงปลา

- 0 comments
จริงๆแล้วการเลี้ยงปลาดุกในบ่อปูนซีเมนต์อย่างเดียวก็สามารถที่จะสร้างผลผลิตกับเกษตรกรผู้เลี้ยงได้เป็นอย่างดีหรือแม้แต่การเลี้ยงปลาดุกในกระชังก็ตาม แต่วันนี้เราขอเกาะกระแสน้ำหมักที่ซึ่งกำลังได้รับความนิยมในบ้านเราอย่างยิ่งเพราะนอกจากจะเป็นการลดต้นทุนแล้วยังช่วยในเรื่องของสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี ซึ่งการเลี้ยงปลาดุกในบ่อปูนซีเมนต์ด้วยน้ำหมักนั้นจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ปลาช่วยในเรื่องของกลิ่นและรสชาติอีกด้วย แต่ทั้งนี้ขั้นตอนอาจจะดูยุ่งยากซับซ้อนสักนิดในการทำแต่รับรองว่าผลตอบแทนที่ได้จะเป็นที่น่าภูมิใจอย่างแน่นอนครับ

เคล็ดลับการเลี้ยงปลาดุกในบ่อปูนซีเมนต์และการทำน้ำหมักสูตรเลี้ยงปลา

การเตรียมอุปกรณ์ในการเลี้ยง

  1. ท่อปูนซีเมนต์ขนาด 100*50 เซนติเมตร
  2. ท่อพีวีซี ขนาด 1 นิ้ว ยาว 20 เซนติเมตร จำนวน 1 เส้น และยาว 40 เซนติเมตร จำนวน 1 เส้น
  3. ข้องอพีวีซีขนาด 1 นิ้ว จำนวน 1 อัน
  4. ยางนอกรถสิบล้อจำนวน 1 เส้น
  5. ยางนอกรถจักรยานยนต์จำนวน 1 เส้น
  6. ตาข่าย
  7. น้ำหมักสูตรเลี้ยงปลา
  8. ปูน ทราย หิน
  9. อาหารสำหรับเลี้ยงปลาดุก
  10. พืชผักที่ปลากิน เช่น ผักบุ้ง ผักตบชวา ฯลฯ
  11. ลูกปลาดุก 70-80 ตัว

การเตรียมบ่อปูนซีเมนต์สำหรับเลี้ยงปลาดุก

  1. จะต้องทำการฆ่ากรดฆ่าด่างในบ่อปูน โดยให้นำหัวกล้วยหรือโคนกล้วยมาสับให้เป็นชิ้นเล็กๆ นำมูลวัวมาผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วนำใส่ไปในบ่อใส่น้ำให้เต็ม แล้วหมักไว้ 5 วัน จากนั้นให้เปิดน้ำทิ้งแล้วเอาโคนกล้วยออกทิ้งด้วย
  2. นำน้ำสะอาดใส่ไปในบ่อแล้วแช่ทิ้งไว้ 1 วัน หลังจากนั้นก็ให้เปิดน้ำทิ้ง
  3. นำผักบุ้งมาถูให้ทั่วบ่อ ทิ้งไว้ตากบ่อให้แห้ง

สิ่งที่จะต้องเตรียมในการทำน้ำหมักสูตรเลี้ยงปลา

  1. ถังพลาสติกที่มีฝาปิดจำนวน 1 ถัง
  2. น้ำตาลทรายแดง 3 กิโลกรัม
  3. ฟักทองแก่ 3 กิโลกรัม 
  4. มะละกอสุก 3 กิโลกรัม
  5. กล้วยน้ำหว้าสุก 3 กิโลกรัม

ขั้นตอนวิธีทำน้ำหมักสูตรเลี้ยงปลา

หั่นมะละกอ, กล้วยน้ำหว้า, ฟักทองทั้งเปลือกและเมล็ดใส่ไว้ในภาชนะที่มีฝาปิด ผสมน้ำตาลทรายแดง แล้วคนให้เข้ากันและปิดฝาให้แน่นหมักทิ้งไว้ 7 วัน แล้วเติมน้ำสะอาด 9 ลิตร ปิดฝาให้แน่นแล้วหมักต่ออีก 15 วัน

ประโยชน์ของการใช้น้ำหมักในการเลี้ยงปลาดุก

  • เป็นฮอร์โมนพืช เร่งดอก เร่งผล รสชาติหวานอร่อย 
  • ปลาไม่เป็นโรค 
  • ปลาไม่มีกลิ่นสาบ 
  • ปลาไม่มีมันในท้อง 
  • ปลาจะมีเนื้อหวานรสชาติอร่อย

ขั้นตอนการเลี้ยงปลาดุกในบ่อซีเมนต์ด้วยน้ำหมักที่เตรียมไว้

  1. นำท่อปูนที่มีรอยคราบผักบุ้ง หรือบ่อปูนที่ไม่มีกรดไม่มีด่าง ใส่น้ำให้มีความสูง 10 เซนติเมตร (ช่วงปลาขนาดเล็ก เพิ่งนำมาปล่อย) แล้วเติมน้ำหมัก 1 ช้อนโต๊ะ
  2. นำปลาดุกมาแช่น้ำในบ่อปูนทั้งถุง แล้วค่อยๆเปิดปากถุงให้ปลาว่ายออกมาเอง
  3. วันแรกที่นำปลามาปล่อยไม่ต้องให้กินอาหาร
  4. นำพืชผักที่ปลากิน เช่นผักบุ้ง ผักตบชวาและอื่นๆมาใส่ในบ่อ
  5. การให้อาหาร ปลา 1 ตัวให้อาหาร 5 เม็ด/เมื้อ ในช่วงปลาเล็กให้อาหารวันละ 2 เมื้อ เช้า-เย็น ปลาอายุ 1 เดือนครึ่งให้อาหารปลาขนาดกลาง โดยให้อาหารวันละ 1 ครั้ง ให้ปลากินตอนเย็น 

หมายเหตุที่ก่อนให้อาหารต้องนำอาหารมาแช่น้ำก่อนเสมอประมาณ 10-15 นาที

  1. ปลาจะได้กินอาหารทุกตัว
  2. ปลาตัวที่แข็งแรงจะทำให้ท้องไม่อืด
  3. ปลาไม่ป่วย
  4. การเจริญเติบโตใกล้เคียงกัน
  5. อาหารไม่เหลือในบ่อและน้ำก็ไม่เสีย
  6. ถ่ายน้ำทุกๆ
  7. วัน หรือ 10 วัน/ครั้ง ทุกครั้งที่ถ่ายน้ำจะต้องใส่น้ำหมัก 1 ช้อนโต๊ะเสมอ

ขั้นตอนสุดท้ายเรื่องของการจำหน่าย

  1. ก่อนจะจำหน่าย 2 วัน ให้นำดินลูกรังสีแดงหรือซังข้าวมาแช่ไว้ในบ่อ จะทำให้ปลาดุกมีสีเหลืองสวย ขายได้ราคาดี
  2. ปลาดุก 3 เดือนครึ่ง จำนวน 70 ตัว จะมีน้ำหนัก 14-15 กิโลกรัม หรือประมาณ 4-5 ตัว/กิโลกรัม จำหน่ายได้กิโลกรัมละ 60-70 บาท
  3. ต้นทุนอาหารกิโลกรัมละ 19-20 บาท หมายเหตุ ต้นทุนครั้งแรก 1 ชุด 430 บาท น้ำที่ถ่ายทิ้งจากบ่อปลาสามารถนำมารดต้นไม้ พืชผักสวนครัว เป็นปุ๋ยอย่างดี
หากนำไปประยุกต์ใช้กับบ่อเลี้ยงของตนเองแล้วได้ผลอย่างไรอย่าลืมนำมาบอกกล่าวเพื่อนๆที่บล็อคแห่งนี้ด้วยนะครับ เผื่อจะเป็นไอเดียให้คนอื่นๆด้วย
[Continue reading...]

วิธีทำยำปลาดุกฟู - นำไปทานเป็นกับแกล้มเวลากินเหล้าก็เข้าท่า

- 0 comments
วันนี้เรามีเมนูการอาหารจากปลาดุกมาเอาใจคนเลี้ยงปลาดุกกันครับ เมนที่ว่านั้นก็คือ ยำปลาดุกฟู ซึ่งในการทำนั้นก็ไม่ได้จัดว่ายากหรือง่ายจนเกินไปนักและยังเหมาะกับการทำไว้ทานในวงเหล้าสำหรับนักดื่มทั้งหลาย ยังไงก็ลองนำสูตรนี้ไปทำรับประทานกันดูครับ

วิธีทำยำปลาดุกฟู - นำไปทานเป็นกับแกล้มเวลากินเหล้าก็เข้าท่า

เครื่องปรุง

  1. ปลาดุกย่าง ๑ ตัว ราว ๔๐๐ ก.
  2. มะม่วงดิบซอย ๕ ชต.
  3. หอมแดงซอยบางๆ ๔ ชต.
  4. ถั่วลิสงคั่ว ๒ ชต
  5. พริกขี้หนู ๖ เม็ด บุบพอเเหลก
  6. ผักชีเด็ดเป็นช่อ
  7. น้ำปลา ๒ ชต.
  8. น้ำมะนาว ตามชอบ
  9. น้ำมัน ๒ ถต.
  10. น้ำตาลปึก ๑ ชต.
  11. พริกแดง ๒ เม็ด
  12. กระเทียม ๔ กลีบ
  13. รากผักชี ๓ ราก
  14. เม็ดมะม่วงหิมพานต์คั่วหรืออบ ๑/๒ ถต.

วิธีทำ

  1. โขลกพริกแดง กระเทียม รากผักชี ให้ละเอียด
  2. ผสมน้ำปลา น้ำตาลปึก น้ำมะนาว พอละลายตักเครื่องที่โขลก พริกขี้หนูใส่คนให้เข้ากัน
  3. แกะเนื้อปลาดุก ยีให้ฟู ทอดให้เหลือง ฟู กรอบ
  4. จัดปลาฟูใส่จาน โรยมะม่วงซอย หอมซอย ถั่วลิสงคั่ว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ตกแต่งด้วยผักชี พริกขี้หนูสวน ราดน้ำปรุงเสิร์ฟทันที 
ขอบคุณข้อมูลจาก hewhew.com
[Continue reading...]

เทคนิคการเลี้ยงปลาดุกช่วยลดต้นทุนเพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืน

- 0 comments
หากท่านใดที่กำลังประสบปัญหาในการเลี้ยงปลาดุกอยู่ละก็ อยากให้ติดตามเทคนิคการเลี้ยงปลาดุกช่วยลดต้นทุนในวันนี้ จากการให้ข้อมูลของ นาย ประดับ ทองรักษ์ นักวิชาการชำนาญการ สำนักงานเกษตรอำเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่าในปัจจุบันนับมีเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาดุกเป็นจำนวนมากที่ประสบปัญหาเรื่อง ปลาดุกที่เลี้ยงมีกลิ่นคาว เนื่องจากน้ำบูดเน่าจากเศษอาหารที่เหลือตกค้าง อาจทำให้ผลผลิตมีจำนวนลดลง และจำหน่ายได้ราคาไม่ดีเท่าที่ควร จึงได้แนะนำวิธีการที่จะช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำบูดเน่าและส่งกลิ่นเหม็น

เทคนิคการเลี้ยงปลาดุกช่วยลดต้นทุนเพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืน

ขั้นตอนมีดังต่อไปนี้

1. ใช้น้ำหมักชีวภาพ กับ สารเร่งพด 2 (ผสมน้ำสะอาด) อัตรา 30 : 60 ซีซี สำหรับบ่อปลาที่มีขนาด 2.5 x 3 เมตร น้ำลึก 50 - 60 เซนติเมตร ปรับสภาพน้ำในบ่อทุก 15 วัน จะช่วยลดค่าของน้ำในการเลี้ยงปลาดุกได้

2. การให้อาหารปลา ควรให้อาหารสำเร็จรูป หรืออาหารเสริมโดยใช้ปลาบดกับรำละเอียด อัตราส่วน 9 : 1 ให้ปลาดุกกิน เกษตรกรควรดูอาหารเสริมให้พอดีกับความต้องการของปลาในบ่อ เพราะทำได้ทีละครั้งเท่านั้นไม่สามารเก็บไว้ให้ในครั้งต่อไปได้ ถ้าให้ในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้น้ำในบ่อเน่าเสีย ส่งผลให้ปลาดุกเป็นโรคครีบเปื่อยได้

3. ถ้าปลาดุกของเกษตรกรเกิดเป็นโรคครีบเปื่อยสามารถใช้ขมิ้นชันประมาณ 1 กำมือ ทุบให้ละเอียดใส่ในน้ำสามารถรักษาโรคแผลเปื่อยได้

4 .ถ้าหากต้องการไม่ให้ปลาดุกมีกลิ่นคาว ให้ใช้เชือกไนล่อนแขวนกระดูกสัตว์ไว้บนบ่อปลาทำการเคาะให้มดแดงตกลงไปเป็น อาหารของปลาดุก ซึ่งสามารถช่วยลดความคาวของเนื้อปลาดุกและช่วยลดความเครียดให้แก่ปลาดุกได้ (เป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมที่เล่าต่อกันมาและสามารถนำมาใช้ได้เป็นประโยชน์ได้ จริง)

แหล่งที่มาของข้อมูล ประดับ ทองรักษ์. นักวิชาการชำนาญการ. สัมภาษณ์, 4 กรกฎาคม 2555.
เรียบเรียงโดย นงพงา ไกรวิลาศ. เจ้าหน้าที่สถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกันจังหวัดชุมพร.
[Continue reading...]

หลากหลายวิธีกับการเลี้ยงปลาดุกในบ่อชนิดต่างๆ

- 0 comments
การเลี้ยงปลาดุกนั้นเริ่มจะเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆของเกษตรกรไทย หลายต่อหลายคนที่กำลังจะเริ่มต้นเลี้ยงแต่ความรู้ยังน้อยและยังไม่แน่ใจว่าจะทำการเลี้ยงด้วยแบบไหน เพราะทุกวันนี้ก็มีหลายวิธีมากที่เกษตรกรใช้เลี้ยงปลาดุกเพื่อส่งขาย แต่ก็ควรจะเลือกให้เหมาะสมกับเงินลงทุนและสถานที่ที่ใช้ในการเลี้ยงว่ามีจำกัดแค่ไหน ในการเริ่มต้นอาจจะตะกุกตะกักไปบ้างแต่หากเริ่มทำรายได้แล้ว เชื่อว่าจะสามารถขยายบ่อเลี้ยงได้อย่างแน่นอน

หลากหลายวิธีกับการเลี้ยงปลาดุกในบ่อชนิดต่างๆ

บ่อชนิดต่างๆมีดังต่อไปนี้

  • การเลี้ยงในบ่อปูนซีเมนต์
  • การเลี้ยงในบ่อดิน
  • การเลี้ยงในกระชัง
  • การเลี้ยงปลาดุกในบ่อพลาสติก (บ่อตื้น)
[Continue reading...]

โรคของปลาดุกเลี้ยงที่พบเจอเป็นประจำที่ต้องระวัง

- 0 comments
อุปสรรคสำคัญอีกอย่างหนึ่งของการเลี้ยงปลาดุก ก็คือ โรคต่างๆนี่แหละ เราควรหมั่นสังเกตอาการและปลาในบ่อเป็นประจำ หากเกิดสิ่งผิดปกติขึ้นก็ควร รีบหาข้อมูลเกี่ยวกับโรคนั้นๆและรีบรักษาโดยด่วน แต่ในบางกรณี ถึงแม้จะมีการป้องกันอย่างดีแล้ว แต่ปลาก็ยังป่วยเป็นโรค ซึ่งมักจะแสดงออกให้เห็นตามอาการต่อไปนี้

โรคของปลาดุกเลี้ยงที่พบเจอเป็นประจำที่ต้องระวัง

โรคของปลาดุกสามารถแบ่งอาการของโรคเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้

1. การติดเชื้อจากแบคทีเรีย จะมีการตกเลือด มีแผลตามลำตัวและครีบ ครีบกร่อน ตาขุ่น หนวดหงิก กกหูบวม ท้องบวมมีน้ำในช่องท้อง กินอาหารน้อยหรือไม่กินอาหาร ลอยตัว

2. อาการจากปรสิตเข้าเกาะตัวปลา จะมีเมือกมาก มีแผลตามลำตัว ตกเลือด ครีบเปื่อย มีจุดสีขาวตามลำตัว สีตามลำตัวซีดหรือเข้มผิดปกติ เหงือกซีด ว่ายน้ำทุรนทุราย ควงสว่านหรือไม่ตรงทิศทาง

3. อาการจากอาหารมีคุณภาพไม่เหมาะสม ที่พบบ่อยมักจะขาดวิตามินบี จะทำให้กะโหลกร้าว บริเวณใต้คางจะมีการตกเลือด ตัวคด กินอาหารน้อยลง ถ้าขาดวิตามินบี ปลาจะว่ายน้ำตัวเกร็งและชักกระตุก

4. อาการจากคุณภาพน้ำในบ่อไม่ดี ปลาจะว่ายน้ำขึ้นลงเร็วกว่าปกติ ลอย หัว ครีบกร่อนเปื่อย หนวดหงิก เหงือกซีดและบวม ลำตัวซีด ไม่กินอาหาร ท้องบวมมีแผลตามตัว อนึ่ง ในการรักษาโรคปลาควรจะได้พิจารณาให้รอบคอบก่อนการตัดสินใจเลือกใช้ยาหรือสารเคมี สาเหตุของโรค ระยะรักษา ค่าใช้จ่ายในการรักษา

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ
บางส่วนจากรายงานของ นายสัตวแพทย์ ดร.คณิต ชูคันหอม
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ คณะสัตวแพทยศาตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
[Continue reading...]

รู้หรือไม่ การปล่อยปลาดุกช่วยบรรเทากรรมต่างๆ ให้เบาบางลง

- 0 comments
การทำบุญนั้นมีหลากหลายวิธีมากในทุกวันนี้แล้วแต่ว่าใครจะศรัทธาแบบไหน ทั้งไถ่ชีวิตโคกระบือ ปล่อยนก หอย และอีกมากมาย แต่วันนี้เราจะพูดถึงการปล่อยปลา โดยเฉพาะปลาดุก ว่าถ้าหากเราทำบุญด้วยวิธีนี้แล้วจะเกิดผลอย่างไรกับชีวิตบ้าง ใครที่สนใจก็ติดตามอ่านกันได้เลย


คนที่มีกรรมปานาติบาต คือเคยฆ่าสัตว์ตัดชีวิต แกล้งสัตว์ แมลงต่างๆ นั้น ชาตินี้ จะเจ็บป่วย บ่อย
มันเป็นเศษกรรม ซึ่งตามเรามา ทางที่จะแก้ไข กรรมตัวนี้ คือ ทำบุญที่มันตรงข้ามกัน เพื่อตัดรอน ผลของกรรม นั้นให้เบาบางลง และเป็นการสร้างกุศลวิบาก เพื่อมาหนุน เราในชาติปัจจุบัน

ใครป่วยบ่อย เจ็บไข้รักษาไม่หาย เราก็แก้ไขด้วยการทำบุญ ปล่อยชีวิตสัตว์ให้รอดตาย ทำไมจึงแนะนำปลาดุก หรือปลา มากกว่าวัวควาย เพราะว่า ปลาใช้ทุนทรัพย์ไม่เยอะเกินไป เราพอทำได้

ปล่อยลงแม่น้ำ ที่น้ำสะอาดไหลตลอดเขาก็จะอยู่ไปตามธรรมชาติของเขา ส่วนวัวควายนี่ไถ่ชีวิตมาได้บุญก็จริงแต่บางที่ลำบากคนรับเลี้ยงเช่นไถ่มาไว้วัดเป็นภาระ ของทางวัดที่ต้องมาดูแลวัวอีก บางที่ไถ่ชีวิตมาแต่ดูแลเขาไม่ดี ปล่อยให้หิวๆอดๆผอมโซ รังแต่จะได้บาปเพิ่ม 

สิ่งที่ไวที่สุดคือปล่อยปลาใช้ทุนน้อยได้ผลไว ปลาดุกตอนตายนี่ทรมานมากเขาจะใช้มีดปักกลางหัวก่อน กว่ามันจะดื้นชักตายถึงสับเป็นท่อนๆ เราลองไปดูที่ตลาดสดได้ เราไปช่วยซื้อมาแล้วไปปล่อยนี่ได้บุญ บุญตัวนี้จะมาหนุนให้วิบากไม่ดีของเราบางส่วนลดลงไป แล้วก็ดีขึ้น สุขภาพที่เคยแย่ก็จะกลับมาดี รักษาไม่หาย ก็จะรักษาง่ายขึ้น

ข้อมูลจาก ponboon.com
[Continue reading...]

วิธีแก้บ่อปลาดุกเหม็นเน่าด้วยน้ำหมักจุลินทรีย์

- 0 comments
ปัญหาใหญ่ที่มักจพบเสมอๆเมื่อเราทำการเลี้ยงปลาดุกในบ่อ คือ บ่อปลาดุกมักจะมีกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งไปทั่ว ปัญหาน่าจะมาจากการให้อาหารเยอะเกินไปบางทีปลาดุกก็อมอาหารไว้ในปาก เกิดการสะสมของอาหารปลาดุกเยอะเกินไปทำให้น้ำเน่าเสียไว ลำพังแค่การถ่ายเปลี่ยนน้ำหรือเอาผักตบใส่ลงไปในบ่อนั้นไม่สามารถที่จะแก้ไข้ได้ตรงจุดนัก วันนี้เราอยากแนะนำให้เพื่อนๆได้ลงใช้น้ำหมักจุลินทรีย์ช่วยแก้ปัญหาเพราะจุลินทรีย์จะช่วยย่อยสลายของเน่าเสียและลดปัญหากลิ่นได้เป็นอย่างดี หากจะใช้ปริมาณมากๆก็อยากแนะนำให้ลองทำน้ำหมักเอง จะช่วยลดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะเลย และข้อดีอีกอย่างของการใช้น้ำหมักจุลินทรีย์ก็คือ ปลาดุกที่เราเลี้ยงไว้จะมีผิวสวย น่ารับประทาน ไม่มีกลิ่นคาว เหมาะแก่การนำไปประกอบอาหาร

วิธีแก้บ่อปลาดุกเหม็นเน่าด้วยน้ำหมักจุลินทรีย์
[Continue reading...]

นักตกปลาเมืองผู้ดีโชว์ภาพปลาดุกยักษ์ทำลายสถิติเท่าที่เคยจับมา

- 0 comments
ปลาดุกยักษ์ที่นายโจนาธานจับได้ครั้งนี้ ดูจากรูปแล้ว 3 คนยังอุ้มแทบไม่ไหว เรียกได้ว่าใหญ่มากจริงๆ จินตนาการไม่ออกเลยว่าตอนเย่อกับปลาจะดุเดือดมากแค่ไหน เผลอๆจะโดนปลาดุกลากลงน้ำได้เลยนะเนี๊ย

นักตกปลาเมืองผู้ดีโชว์ภาพปลาดุกยักษ์ทำลายสถิติเท่าที่เคยจับมา

โดยนายโจนาธาน เอเวอรี่ นักตกปลาวัย 31 ปี จากหมู่บ้าน Winscombe  ตอนเหนือของเมือง โซเมอเซท ประเทศอังกฤษ ช่วยกันกับเพื่อนอีกสองคน ยกร่างของเจ้าปลาดุกยักษ์ขึ้นมาเหนือผิวน้ำ ที่แม่น้ำ Segre ประเทศสเปน วัดขนาดความยาวได้ 8 ฟุต 3 นิ้ว เชื่อว่าทำลายสถิติเท่าที่เคยจับได้

นักตกปลาเมืองผู้ดีโชว์ภาพปลาดุกยักษ์ทำลายสถิติเท่าที่เคยจับมา

เขากล่าวว่า รอเวลาจับเจ้าปลาดุกษ์ยักษ์ นานกว่า 15 ชั่วโมง เกือบจะยกเลิกภารกิจ แต่โชคดีที่สามารถจับมันได้ เมื่อเห็นขนาดของมันแล้ว คิดว่าต้องเป็นตัวที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจับมา ขณะที่เจสัน อิงเกลย์ ผู้นำทัวร์ บอกว่า เขาเคยเห็นปลาขนาดใหญ่มาก่อน แต่ตัวนี้มันใหญ่มาก ราวกับโผล่ออกมาจากการ์ตูนยังไงอย่างงั้น

ข้อมูลจาก news.mthai.com
[Continue reading...]

ชาวบ้านแตกตื่นฮือฮาปลาดุกบิ๊กอุยเผือกแกล้งตาย

- 0 comments
จากข่าว เจ้าของบอกว่า ปลาดุกพันธุ์บิ๊กอุยเผือก จะชอบนอนแกล้งตายเวลาที่ไม่ได้กินอาหารตามเวลา จริงๆแล้วมันหิวมากจนไม่มีแรงว่ายน้ำหรือเปล่า อันนี้ก็ไม่ทราบแน่ชัด แต่ที่แน่ๆตอนนี้คงเป็นที่รู้จักของชาวนครศรีธรรมราชอย่างแน่นอน

ชาวบ้านแตกตื่นฮือฮาปลาดุกบิ๊กอุยเผือกแกล้งตาย

เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบปลาดุกเผือก แปลกประหลาดตัวหนึ่งที่นายชัยพงศ์ ณัฎฐวรรธนะ อายุ 41 ปี เจ้าของร้าน ซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ ชื่อร้านหนุ่ม อะไหล่ ตั้งอยู่หน้าตลาดสดเทศบาล ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เลี้ยงเอาไว้ ในอ่างน้ำหน้าร้าน ตรวจสอบในอ่างเลี้ยงปลา พบปลาดุกพันธุ์บิ๊กอุยเผือก ลำตัวขนาดความยาวราว 9 นิ้ว

นายชัยพงศ์เล่าว่าเลี้ยงปลาดุกเอาไว้ 10 ตัว มีอยู่ 1 ตัว ที่ซื้อมาเลี้ยงตั้งแต่ตัวเท่านิ้วก้อย ในราคา 10 บาท เมื่อ 2 ปีก่อน จากตลาดนัดทุ่งใหญ่ และรักมันมาก เนื่องจากไม่เหมือนตัวอื่น มันชอบแกล้งตาย เมื่อไม่ได้กินอาหารตามเวลา จะนอนตะแคง หรือบางทีนอนหงายท้อง แน่นิ่งไม่ไหวติง หลายนาที

บางทีลูกค้าที่มาซ่อมรถ ถามว่าทำไมปลาตายแล้ว ไม่เอาออกไปทิ้ง ไม่กลัวน้ำเสียหรือ จึงต้องคอยบอกกับลูกค้าบอกว่ามันแกล้งตาย เดี๋ยวให้อาหารมันก็ฟื้นขึ้นมา ทำแบบนี้ประจำ จนเป็นที่ประทับใจในความฉลาดของมัน คนที่เคยมาดูจะแวะเวียนมาดูอีกเป็นประจำ เพราะชอบในความแสนรู้ของปลาดุกเผือกแกล้งตาย ที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน มีคนมาขอซื้อ แต่ไม่ขาย เพราะตั้งแต่เลี้ยงมา ทำไห้ขายอะไหล่รถได้ดีขึ้น มีโชคลาภกับตัวเองหลายครั้ง ทำมาค้าขายขึ้น คาดว่าคงเป็นปลาดุกเผือกนำโชค คงเลี้ยงเอาไว้คู่ชีพตลอดไป

ข้อมูลจาก dailynews.co.th
[Continue reading...]

เกี่ยวกับการตลาดของการเลี้ยงปลาดุกเพื่อขายภายในประเทศ

- 0 comments
จริงๆแล้วปลาเศรษฐกิจที่เพาะเลี้ยงเพื่อการค้าขายในประเทศไทยมีอยู่หลายชนิดมากมาย เช่น ปลานิล, ปลาทับทิม, ปลาบึก, ปลาสวาย, ปลาช่อน หรือแม้แต่ปลาดุก ทั้งนี้ปลาดุกเป็นปลาเศรษฐกิจที่เป็นที่นิยมเพาะเลี้ยงอย่างต่อเนื่องมาตลอด ทั้งในแง่ของปลาเนื้อและปลาแปรรูป ในปัจจุบันมีผู้ที่ทำการเลี้ยงปลาดุกมากขึ้น ทำให้ต้นทุนการเลี้ยงไม่สูงมากนัก และทำให้มีปลาเข้าตลาดได้อยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังได้ปลาที่ดี มีรสชาติอร่อย ขนาดของปลาได้มาตรฐาน ทำให้ผู้บริโภคซื้อปลาที่ราคาไม่แพง แนวโน้มตลาดทิศทางของการเพาะเลี้ยงปลาดุกจึงเป็นไปอย่างสวยงาม

การนำปลาดุกที่เลี้ยงไปขายในตลาด

เมื่อทำการเลี้ยงปลาดุกไปแล้วประมาณ 5 เดือน ก็ถึงเวลาจับปลาขาย ปลาตามท้องตลาดจะเรียกชื่อแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาด ส่วนมากจะนิยมเรียกตามขนาดอยู่ 3 ประเภท คือ ปลาขนาด 3-5 ตัวต่อกิโลกรัมจะเรียกกันว่าปลาย่าง (เป็นขนาดปลาที่ลูกค้าต้องการมากที่สุด) ปลาขนาด 2 ตัวต่อกิโลกรัม จะเรียกว่าปลาโบ้ แต่ไม่เป็นที่นิยมมากเท่าไร เพราะมีขนาดใหญ่เกินความต้องการ และขนาดครึ่งกิโลกรัมขึ้นไปจะเรียกปลาหั่น ซึ่งราคาปลาไม่มีผู้ใดกำหนดจะเป็นไปตามกลไกตลาด ขึ้นอยู่กับมีผลผลิตในตลาดมากหรือน้อย ถ้าปลาในตลาดมีมากราคาก็จะต่ำ แต่ถ้าปลาในตลาดมีน้อยราคาก็จะสูง และที่สำคัญที่สุดคือความต้องการของผู้บริโภค ว่ามีมากหรือน้อยเพียงใดด้วย แต่ปัจจุบันมีผู้นิยมบริโภคปลาดุกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งลู่ทางของตลาดปลาดุกน่าจะยังคงสดใสสำหรับเกษตรกรชาวไทย

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ
บางส่วนจากรายงานของ นายสัตวแพทย์ ดร.คณิต ชูคันหอม
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ คณะสัตวแพทยศาตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
[Continue reading...]

วิธีการเลี้ยงปลาดุกในกระชังให้เจริญเติบโตได้ดี

- 0 comments
ทุกวันนี้เกษตรกรเริ่มหันมาทำการเลี้ยงปลาดุกมายิ่งขึ้น ซึ่งวิธีการเลี้ยงปลาดุกในกระชังเป็นการใช้แหล่งน้ำจากแหล่งน้ำตามธรรมชาติให้เป็นประโยชน์ ในการเพิ่มอาหารโปรตีนอีกทางหนึ่ง ซึ่งการเลี้ยงปลาดุกนั้นสามารถเลี้ยงเป็นงานอดิเรกหรือเลี้ยงเป็นอาชีพประจำครอบครัวก็ได้ เพราะจะช่วยเก็บเศษอาหารที่เหลือให้เกิดประโยชน์ และถ้าเลี้ยงในกระชังขนาดใหญ่หลายๆ กระชังแล้วจะสามารถทำรายได้ให้กับผู้เลี้ยงได้มาก และสามารถยึดเป็นอาชีพได้ แต่ทั้งนี้หากคิดจะทำจริงจังก็ควรจะศึกษาแนวทางในการเลี้ยง ทดลองการให้อาหารในแบบต่างๆ เพื่อพัฒนาการเลี้ยงปลาดุกของเราได้ด้วย จะได้มีพ่อและแม่พันธุ์ปลาดุก หรือยังจะส่งผลให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและผลผลิตการเลี้ยงปลาดุกของเราเอง

สิ่งที่ควรคำนึงในการเลี้ยงปลาดุกในกระชังมีดังต่อไปนี้

  • คุณภาพของน้ำต้องดี
  • เป็นแหล่งที่มีกระแสน้ำไหลผ่านสะดวก
  • การคมนาคมสะดวก
  • ในบริเวณที่ใช้เลี้ยงปลาในกระชังควรปราศจากศัตรูธรรมชาติและโจรผู้ร้าย
  • ฤดูกาลที่เหมาะสม
  • ขนาดของกระชังพอเหมาะประมาณ กว้าง 1½ เมตร ยาว 2 เมตร ลึก 1.3 เมตร

คลิปวิดีโอวิธีการเลี้ยงปลาดุกในกระชัง



ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ
บางส่วนจากรายงานของ นายสัตวแพทย์ ดร.คณิต ชูคันหอม
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ คณะสัตวแพทยศาตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
[Continue reading...]

มารู้จักลักษณะและนิสัยของปลาดุกกัน

- 0 comments
ต่อไปเราจะเรียนรู้ลักษณะและนิสัยของปลาดุกกันเพื่อจะได้เข้าใจในธรรมชาติของปลาดุกและทำการเลี้ยงปลาดุกอย่างถูกต้อง รู้จักจุดเด่นจุดด้อย รู้ว่าต้องการอยู่ในบ่อแบบไหน เราจะได้เตรียมสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับมันมากที่สุด

ลักษณะและนิสัยของปลาดุกมีดังต่อไปนี้

โดยทั่วไปแล้วลักษณะรูปร่างของปลาดุกจะเรียวยาว ไม่มีเกล็ด มีหนวด 4 คู่อยู่ใกล้ๆกับปากซึ่งหนวดนี่แหละเป็นตัวช่วยให้สามารถรับความรู้สึกได้ดี และยังใช้หนวดมากกว่าใช้ตาในการหาอาหารตามพื้นดิน ตาของมันก็มีขนาดเล็กมากอีกด้วย ครีบหลังยาวไม่มีกระโดง ครีบอกก้านแรก มีลักษณะยื่นแหลม และอาจจะมีหรือไม่มีลักษณะเป็นฟันเลื่อยก็ได้ ส่วนนี้ช่วยพยุงร่างกายให้เกาะอยู่ในสภาพต่างๆ ได้ดี ปลาดุกชอบหากินตามหน้าดิน มีนิสัยว่องไว สามารถจะขึ้นมาอยู่บนบกได้นานกว่าปลาชนิดอื่นๆ รวมถึงสามารถที่จะอาศัยอยู่ในดิน โคลน เลน และในน้ำที่มีปริมาณออกซิเจนต่ำได้นาน เนื่องจากมีอวัยวะพิเศษช่วยในการหายใจนั่นเอง อาหารที่ปลาดุกชอบกิน ส่วนมากเป็นอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ แต่ถ้านำมาเลี้ยงในบ่อก็สามารถฝึกให้กินอาหารจำพวกพืชได้ รวมถึงสามารถฝึกนิสัยให้ปลาดุกขึ้นมากินอาหารบริเวณผิวน้ำแทนการหาอาหารกินตามหน้าดินได้

การเลี้ยงปลากดุกนั้นยังมีรายละเอียดและข้อมูลอีกมากมายที่เรายังไม่ได้นำเสนอซึ่ง จะรวมรวบมาอีกในบทความหน้า อย่าพลาดติดตามกันนะครับ

คลิปวิดีโอการเลี้ยงปลาดุกอุยที่จันทบุรี



ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ
บางส่วนจากรายงานของ นายสัตวแพทย์ ดร.คณิต ชูคันหอม
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ คณะสัตวแพทยศาตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
[Continue reading...]

สาระและข้อมูลน่ารู้ที่ควรทราบก่อนทำการการเลี้ยงปลาดุก

- 0 comments
ก่อนที่เราจะทำการเลี้ยงปลาดุกหรือเลี้ยงสัตว์ชนิดใดก็ตามเราควรที่จะศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์นั้นๆด้วยเพื่อที่จะสามารถเพาะเลี้ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพและถูกวิธี จริงๆแล้วปลาดุกเป็นสัตว์ที่ชอบกินเนื้อประเภทหนึ่งและยังปลาที่คนไทย รู้จักกันดี และมีความนิยมนำมาบริโภคในอัตราที่สูง ซึ่งสามารถทำรายได้ให้กับเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงอย่างงดงาม เพียงแต่มีน้ำดี สภาพพื้นที่ดี มีการเอาใจใส่ดูแลให้อาหารดี รวมทั้งผู้เลี้ยงขยันศึกษาหาความรู้เพื่อประยุกต์ใช้กับกิจการของตน และเพื่อสนองตอบปัจจัยในการเลี้ยงปลาดุกอย่างมีประสิทธิภาพ มาลองดูกันต่อเลยว่าคุณดุกมีทั้งหมดกี่ชนิดในประเทศไทยเรา

ปลาดุกที่พบในประเทศไทยมีทั้งหมด 5 ชนิด

ในประเทศไทยเรานั้นพบว่ามีปลาดุกด้วยกันทั้ง หมด 5 ชนิด แต่เท่าที่รู้จักมีเพียง 2 ชนิด คือ ปลาดุกอุย และปลาดุกด้าน ปลาดุกที่นิยมเลี้ยงคือ ปลาดุกด้าน เพราะเนื้อปลาดุกด้านค่อนข้างแข็ง ทำให้สามารถขนส่งได้ในระยะทางไกลๆ ประกอบกับปลาดุกด้านเลี้ยงง่าย โตเร็ว จึงเป็นที่นิยมเลี้ยงกันมาก แต่สำหรับผู้บริโภคแล้ว จะนิยมปลาดุกอุย เพราะให้รสชาติดีเนื้อปลานุ่ม ฟู กลิ่นดี ซึ่งหากเกษตรกรท่านใดมีเทคนิควิธีสามารถเพาะเลี้ยงปลาดุกอุยได้จำนวนมากๆ ก็ยิ่งทำใ้ห้สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำจากการเลี้ยงปลาดุกอย่างแน่นอน

ปลาดุกอุย

สี ของผิวหนังค่อนข้างเหลือง มีจุดประตามตัวและบริเวณด้านข้างของลำตัวอย่างเด่นชัด เนื้อสีออกเหลือง มีมันมาก ลำคัวค่อนข้างทู่ ส่วนปลายของกระดูกท้ายทอยจะป้านและสั้น

ปลาดุกด้าน

สี ของลำตัวค่อนข้างคล่ำเล็กน้อย เนื้อมีสีขาว มีมันน้อย ส่วนหัวค่อนข้างแหลมและส่วนปลายของกระดูกท้ายทอยมีลักษณะแหลมยาว ลักษณะดังกล่าว สังเกตเห็นได้ชัดเจนมาก

แหล่งกำเนิดและถิ่นอาศัยของปลาดุก

ปลาดุกจะพบแพร่กระจายทั่วไปในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ประเทศอินเดีย พม่า ไทย ลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และมาเลเซีย สำหรับประเทศไทยพบปลาดุกในคลอง หนอง บึง ต่างๆทั่วทุกภาค เป็นปลาที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำจืดทั่วไป แม้ในหนองน้ำที่มีน้ำเพียงเล็กน้อยก็ยังพบปลาดุก ทั้งนี้เพราะปลาดุกเป็นปลาที่มีอวัยวะพิเศษในการหายใจ เช่นเดียวกับปลาช่อน ดังนั้นจึงสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ในน้ำที่มีออกซิเจนเพียงเล็กน้อยและถึงแม้ ว่าน้ำที่ค่อนข้างกร่อยปลาดุกก็ยังสามารถอาศัยอยู่ได้เป็นอย่างดี

ท่านสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารต่างๆเกี่ยวกับการเลี้ยงปลาดุกได้จากบล็อคเล็กๆแห่งนี้เลยครับ ทางเราจะทำการหาข้อมูลดีๆมาให้เกษตรกรผู้รักการเลี้ยงปลาดุกทุกท่านครับผม หวังว่าจะถูกใจและเป็นประโยชน์ครับ

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ
http://www.vet.ku.ac.th/library-homepage/db_directory/fish/fish_cat.htm
[Continue reading...]