การเลี้ยงปลาดุกโดยทั่วไป ผู้ประกอบการจะประสบกับการขาดทุนหรือไม่คุ้มทุน เพราะปัจจัยการผลิตมีราคาแพง คือ อาหาร เกษตรกรหลายรายถึงกับเลิกการเลี้ยงปลาดุกไปทำกิจกรรมการเกษตร อย่างอื่นแทน จากการนำเกษตรกรผู้ร่วมโครงการศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชน หมู่ที่ ๑ ตำบล ควนกลาง อำเภอพิปูน ไปทัศนศึกษาดูงาน ณ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนไม้เรียง มหาวิทยาลัยธรรมชาติ สถาบันเรียนรู้เพื่อพึ่งตนเอง หมู่ที่ ๒ ตำบลไม้เรียง อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช
เทคนิคการเลี้ยงปลาดุกแบบคุ้มทุนและทำกำไรให้กับผู้เลี้ยง
ซึ่งเริ่มจากการให้อาหาร ปลาเล็ก ให้อาหารแบบนับเม็ด คือ ตัวละ ๕ เม็ด โดยแช่น้ำก่อนให้กิน เมื่อปลาดุกโตขึ้น อายุ ๑ เดือน ให้เริ่มฝึกให้กินพืชกินผัก เช่น ผักตบชวา ผักกะเฉด ผักบุ้ง แทนในมื้อเย็น ช่วงแรกปลาจะไม่ค่อยกิน เพราะปลาดุกเป็นปลากินพืช แต่เมื่อหิวจัดก็จะกัดกิน ให้ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนปลากินเป็น ปลาก็จะกินผัก อาหารจากพืชผักแทนอาหารมื้อเย็น ทำให้สามารถลดต้นทุนลงได้ครึ่งหนึ่ง เมื่อครบกำหนดการจับปลา ขายผู้บริโภคจะชอบซื้อ เพราะปลาจะมีเนื้อแน่น รสชาดก็คล้ายปลาธรรมชาติปัญหาที่พบในการเลี้ยงปลาดุกอีกอย่างหนึ่ง คือ ปัญหาของเนื้อปลามีกลิ่นสาบ วิธีการแก้ไข คือ เมื่อเปลี่ยนถ่ายน้ำในทุก ๗ วันนั้นให้เติมน้ำจุลินทรีย์ลงไปด้วย ปริมาณการเติมขึ้นอยู่กับขนาดของ บ่อเลี้ยง ถ้าเลี้ยงในท่อซิเมนต์ใช้ ๒ – ๓ ช้อนโต๊ะ ก็จะทำให้ปลาดุกไม่มีกลิ่นสาบเวลารับประทาน หากจะให้การเลี้ยงปลาดุกให้ได้กำไร การให้อาหารพืชทดแทนในบางมื้อ ปลามีกลิ่นน่ารับประทาน ต้องใช้ น้ำจุลินทรีย์ปรับสภาพน้ำ เป็นที่มาของปลาดุกโตเร็ว รสชาดดีเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค.
แหล่งที่มา phipun.nakhonsri.doae.go.th
0 comments:
Post a Comment